วางแผนจัดงานศพล่วงหน้า
ออกแบบจัดงานศพให้ตัวเอง
รับจัดงานศพโดยทีมงานมืออาชีพ
ไม่ต้องห่วงและกังวลใดๆ เมื่อท่านจากไป
เราจะดูแลท่านเปรียบเสมือนญาติของเรา
By...The Heaven 2025

เหตุผลที่หลายท่านเลือกให้
The Heaven 2005 จัดงานศพ
-
สภาพจิตใจ ไม่พร้อมที่จะทำสิ่งต่างๆ จากการสูญเสียผู้อันเป็นที่รัก
-
ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร เพราะเป็นสถานการณ์ที่รีบด่วน กระทันหัน
-
ต้องการเพื่อน และคนให้กำลังใจ และคนคอยช่วยงาน
-
ไม่ทราบรายละเอียดขั้นตอนในการจัดงานศพ
-
ไม่มีญาติพี่น้องช่วยดำเนินการ
-
ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย ให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนดไว้
- ต้องการรูปแบบงานให้เป็นไปตามความต้องการ
- ต้องการให้ช่วยเรื่องกฎหมาย เช่น พินัยกรรม และภาษีมรดก
-
ต้องการความสะดวก เนื่องจากเราช่วยจัดเตรียมทุกสิ่งให้ ตั้งแต่การเคลื่อนย้าย ดอกไม้ประดับหีบ ของชำร่วยงานฌาปนกิจ จนกระทั่งพิธีเก็บอัฐิและลอยอังคาร
การนำร่างผู้เสียชีวิตลงโลงศพ
ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตบรรจุลงในโลงศพ จะมีพิธีเพื่อเป็นเกียรติและแสดงความเคารพผู้เสียชีวิต และยังเป็นการให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ระลึกไว้ว่า ร่างนี้เป็นของผู้ที่มีกุศล มีคุณงามความดี โดยบาทหลวงจะเป็นผู้อ่านบทภาวนาและประพรมน้ำมนต์ ก่อนยกร่างของผู้เสียชีวิตบรรจุลงในโลงศพ ปิดฝาโลงศพและตกแต่งโลงศพด้วยมาลัยและดอกไม้
ในส่วนของโลงศพแบบคริสต์ที่เผยแพร่เข้ามาในเมืองไทยนั้น เป็นโลงศพที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมตะวันตกผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมตะวันออก ซึ่งสุริยาหีบศพก็มีรูปแบบการผลิตโลงศพที่สอดคล้องกับวัฒนธรรม โดยสุริยาหีบศพมีโลงศพสำหรับผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ มีทั้งโลงศพรูปทรงสี่เหลี่ยมและโลงศพหกเหลี่ยม โลงศพนั้นผลิตจากวัสดุชั้นดีอย่างไม้สักหรือไม้ปาติเกิ้ล โดยรอบโลงศพจะติดที่จับและไม้กางเขน ตัวโลงศพทาสีขาวและทาเชลแล็กโชว์เนื้อไม้สัก อีกด้วย

พิธีการ
เคลื่อนศพไปที่ศาลาสวดศพ ประกอบวจนพิธีกรรม (3-5 วัน)
เมื่อมีผู้เสียชีวิต และผ่านขั้นตอนทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว (เช่น การแจ้งตาย) ก็จะมีการเคลื่อนศพมาที่ศาลาสวดศพ เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการประกอบวจนพิธีกรรมของศาสนา จะจัดกี่วันก็แล้วแต่ความสะดวกของเจ้าภาพ
สำหรับขั้นตอนการประกอบพิธีกรรมในแต่ละวัน จะเริ่มจากการภาวนาอุทิศ ซึ่งมีขั้นตอนตามบทอ่าน ต่อด้วยการทำสัญลักษณ์ ‘มหากางเขน’ จากนั้นจะมีบทสร้อย มีการอ่านร้องเพลง การอ่านพระคัมภีร์ ต่อมา บาทหลวงจะให้ข้อคิด ก่อนที่จะสวดภาวนาร่วมกัน และมีเพลงปิด
ขั้นตอนข้างต้นขึ้นอยู่กับแต่ละโบสถ์ว่าจะจัดให้มีการสวดอย่างไร นอกจากนี้ บางโบสถ์ยังอาจจัดให้แต่ละวันมีหลายแบบแตกต่างกันไป เช่น ขั้นตอนสำหรับวันธรรมดา สำหรับวันเสาร์ และวันอาทิตย์ เป็นต้น

พิธีปลงศพ
หลังจากที่ประกอบวจนพิธีกรรมที่ศาลาสวดศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเคลื่อนศพอีกครั้งมาที่โบสถ์ในวันถัดไป โดยจะจัดให้มีพิธีมิสซา หรือพิธีบูชาขอบพระคุณ ตามแบบโรมันคาทอลิก ในที่นี้อาจเรียกว่าเป็นพิธีปลงศพก็ได้
ขั้นตอนจะเริ่มจากการเคลื่อนศพเข้ามาในโบสถ์ มีการสวดภาวนา มีเพลงเริ่มพิธี จากนั้นจะมีการอ่านบทอ่าน บทพระวรสาร รวมถึงวจนพิธีกรรม ซึ่งจะเป็นบทภาวนาสำหรับพิธีปลงศพ
พิธีเสกหลุมหน้าหลุมศพ
ในวันเดียวกันหลังเสร็จสิ้นพิธีปลงศพ ผู้เข้าร่วมจะมารวมกันหน้าหลุมศพเพื่อประกอบพิธีเสกหลุมศพ ก่อนที่จะนำศพลงหลุม และมีการสวดภาวนาสำหรับพิธีฝังศพ ก่อนที่จะปิดหลุมศพ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี
พิธีฝังที่สุสาน
บาทหลวงจะทำพิธีส่งวิญญาณ และ
อำลาผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้าย
จะเสกหลุมศพ ประพรมน้ำเสกหรือน้ำมนต์
ถวายกัมมะยานหลุมศพผู้เสียชีวิต
จากนั้นนำโลงศพลงหลุม
ซึ่งบาทหลวงจะเป็นผู้กล่าวให้ผู้เสียชีวิต
ออกจากโลงศพไปหาพระเจ้า

สำหรับผู้นับถือศาสนาพุทธที่จะไป
เคารพศพผู้นับถือศาสนาคริสต์ ควรปฏิบัติดังนี้
ในกรณีที่ศพอยู่ที่วัดหรืออยู่ที่บ้าน
-
วางพวงหรีด
-
พรมน้ำเสก 1 ครั้ง
-
กล่าวอธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณไปสู่สวรรค์หรือกล่าวอโหสิกรรม
-
ทำความเคารพด้วยการคำนับ

ขั้นตอนการประกอบพิธีศพ คริสต์ (โปรเตสแตนด์)
-
พิธีบรรจุศพ ก่อนเคลื่อนมาที่โบสถ์
-
ภายหลังเสียชีวิต จะมีการทำพิธีบรรจุศพสั้นๆ ในสถานที่ที่เสียชีวิต เช่น โรงพยาบาล ประกอบด้วยการกล่าวคำอาลัย เอาร่างลงโลงพร้อมกับประพรมน้ำหอม และถวายเพลขอบคุณพระเจ้า หลังจากนั้น ศาสนาจารย์อาจจะถามญาติว่า มีอะไรข้องใจหรืออยากจะฝากอะไรไว้ในโลงหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นเสื้อผ้าหรือพระคัมภีร์ก็ได้ จากนั้นจะคลุมร่างด้วยผ้าไม้กางเขน และปิดฝาโลง
-
พิธีไว้อาลัยที่โบสถ์ ไม่เกิน 3 วัน
-
เมื่อเคลื่อนมาที่โบสถ์ ก็นำมาสู่ขั้นตอนการประกอบพิธีไว้อาลัย ส่วนใหญ่จะจัดเวลาประมาณ 19.00-19.30 น. ของแต่ละวัน ใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที และทั้งหมดจะไม่เกิน 3 วัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อถวายเกียรติพระเจ้าและขอบคุณพระเจ้า เป็นการนมัสการพระเจ้าร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย
พิธีฝัง/พิธีเผา
-
ในวันถัดไปหลังเสร็จสิ้นพิธีไว้อาลัยวันสุดท้าย ก็จะต้องนำศพเคลื่อนมาทำพิธีนมัสการพระเจ้าที่ศาลาประกอบพิธีของสุสาน หลังจากนั้นจะเคลื่อนศพอีกครั้งไปที่หลุม
-
เมื่ออยู่หน้าหลุม ขั้นตอนคือ จะมีการแจกดินทรายกับดอกไม้ ไว้สำหรับโปรยหรือวางไว้บนฝาโลงศพในหลุม เสร็จเรียบร้อยแล้ว ศาสนาจารย์จะทำพิธี ณ ตรงนั้น อีกครั้งสั้นๆ มีการอาลัยรำลึก ก่อนที่ผู้เข้าร่วมจะวางดินทรายกับดอกไม้ จากนั้น เจ้าหน้าที่จะปิดฝาโลงและโบกปูนปิด แล้วค่อยมาก่อสร้างสิ่งที่จะนำมาครอบหลุมศพในภายหลัง
-
ส่วนพิธีเผา ซึ่งโปรเตสแตนต์อนุญาตให้ทำได้ ขั้นตอนก็มีลักษณะเดียวกัน คือ นมัสการพระเจ้า ก่อนที่จะเคลื่อนโลงไปที่เตาเผา ซึ่งจะเรียกกันว่า ‘อุโมงค์เพลิง’ จากนั้น ผู้เข้าร่วมจะวางดอกไม้ (ไม่มีดินทราย) ศาสนาจารย์กล่าวคำอาลัยครั้งสุดท้าย ก่อนปิดอุโมงค์เพลิงและจุดไฟเผา ผู้เข้าร่วมจะเดินกลับมาที่นั่งและขอบคุณพระเจ้าอีกครั้ง เป็นอันจบพิธี
-
สำหรับการเผาศพ มีสถานที่ที่ทำพิธีได้อยู่ 2 แห่ง คือ คริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิต คลองสี่ และคริสตจักรกรุงศรีวังน้อย